ขุนช้างขุนเเผน 2
ขุนช้างขุนแผน ตอนที่ ๒ จากบ้านเกิด
ในที่สุดวันที่พระพันวษา จะล่าควายป่าก็มาถึง ท่านมีหน้าตาสี่เหลี่ยม คิ้วดกหนา จมูกโด่งตั้งตรง ริมฝีปากบาง
แสดงให้เห็นถึงลักษณะของคนที่มีอารมณ์ร้อน แต่เป็นคนตรงและมีความจริงใจเป็นที่ตั้ง
ท่านเสด็จมาประพาสยังเมืองสุพรรณบุรีนี้แห่งนี้ ก็เพราะว่าท่านอยากจะได้เจอกับขุนไกรพลพ่าย ซึ่งเคยเป็นทหารที่ตามรับใช้ท่านมา
ตั้งแต่สมัยที่ท่านยังเป็นเพียงรัชทายาทเท่านั้น ขุนไกรเป็นนายทหารที่มีความเก่งกาจ คาถาอาคมก็ขมังนัก นิสัยก็เป็นคนซื่อสัตย์ไม่โลเล
ดังนั้นท่านจึงเลือกที่จะเสด็จมายังที่แห่งนี้ เพื่อมาพบกับขุนไกรโดยเฉพาะ
วันนั้นขณะที่ขุนไกรได้ล่ำลาเมียรักจนหีแฉะเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาอาบน้ำแต่งตัว เพื่อจะไปรับเสด็จสมเด็จพระพันวษา
ทิ้งให้นางทองประศรีนอนอยู่เพียงคนเดียวในห้อง ซี่งขณะที่ขุนไกรกำลังจะเดินออกจากบ้านนั้น ก็ปรากฏลางร้ายเกิดขึ้นคือ
จิ้งจกตัวหนึ่ง ได้ตกลงมาตายต่อหน้าขุนไกร ทำให้ขุนไกรซึ่งรอบรู้ในเรื่องไสยเวทย์ต่างๆ ต้องหยุดชะงักและต้องมาทำนายทายทักตัวเอง
โดยหยิบเอากระดานชนวนขึ้นมา แล้วเริ่มทำนายตามหลักโหราศาสตร์ที่ได้ศึกษามาเป็นอย่างดี
แต่ต่อให้ขุนไกรขีดเขียนและทำนายตนเองอย่างไร ก็ไม่ปรากฏผล เหมือนดังกับมันไม่มีอะไรให้ทำนาย
สร้างความหงุดหงิดใจให้แก่ขุนไกรอย่างยิ่ง ดังนั้นขุนไกรจึงลุกขึ้นยืนและลงจากเรือนไป
ซึ่งขณะนั้นนางทองประศรีได้ลุกขึ้นมาส่งสามีที่หน้าต่าง แต่นางทองประศรีก็พบว่า ขุนไกร ถูกล่ามโซ่
นางขยี้ตาอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดภาพของขุนไกรก็กลับมาปรกติอีกครั้ง
นางศรีประจันรู้สึกไม่สบายใจ และไม่อยากจะให้สามีของนางจากไปเลย
ณ ที่ประทับของสมเด็จพระพันวษา ขุนไกรได้เดินทางมาถึงพร้อมกับทหารในสังกัด
เมื่อมาถึงแท่นที่ประทับขุนไกรและทหารติดตามก็ลงจากหลังม้า และคลานมาเข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดิน
“เออ ว่าไงวะ ไอ้ขุนไกร ไม่ได้เจอกันนาน สบายดีนะ ฮ่ะ ฮ่ะ ข้าละดีใจที่ได้เจอเอ็ง เป็นไงได้ข่าวว่าได้ลูกชายใช่มั้ย...
เอ็งมันโชคดีจริงๆ เลยว่ะ ข้าเองยังไม่มีซักคน มีแต่อีสาวๆ ทั้งนั้น” สมเด็จพระพันวษาทักทายขุนไกร
“มีบุตรชายคนหนึ่ง ชื่อพลายแก้วพระเจ้าข้า...
เนื่องจากตอนที่ภรรยาของข้าตั้งท้องนั้น ฝันว่ามีช้างพลายเผือกวิ่งมาเข้าในท้องพระเจ้าข้า เลยตั้งชื่อตามนั้น”
“เรอะ งั้นลูกเอ็งก็มีบุญไม่เบา วันหลังเอ็งพามาเข้าเผ้าข้าซิ แล้วข้าจะตั้งให้มันเป็นมหาดเล็ก จะได้รู้จักเข้าเจ้า เข้านายได้ ดีมั้ย ไอ้ขุนไกร”
สมเด็จพระพันวษาพูด พลางมองลงมาที่ตัวขุนไกรที่กำลังหมอบอยู่ด้านล่าง พลางเสด็จลงจากแท่นที่ประทับ
แล้วเสด็จดำเนินไปขึ้นม้าพระที่นั่ง พลางพยักหน้าให้ขุนไกร
“มา เอ็งไปต้อนควายป่ามาให้ข้าล่าได้เล้ว เดี๋ยวเสร็จแล้วไปกินข้าวกะข้า”
ขุนไกรรับคำ แล้วลุกขึ้นเรียกบรรดาทหารคนสนิทให้ขึ้นม้า แล้วกระตุ้นม้าควบนำหน้าหายเข้าไปในป่า
สักพักเดียวก็ได้ยินเสียงป่าแตกครืนครั่นมาแต่ไกล บัดดลก็ปรากฏฝูงควายป่าวิ่งแตกตื่นมายังด้านหน้าของที่ประทับของสมเด็จพระพันวษา
แต่ไม่มีสักตัวเดียวที่ยอมวิ่งมาเข้าในคอก เหมือนกับรู้ว่าถ้ามันเข้ามาอยู่ในคอกนั้น มันจะไม่มีโอกาสที่จะได้กลับมาสู่ป่าอีกเลย
เมื่อฝูงควายป่าตัวหน้าๆ ไม่ยอมเข้าคอกแต่แตกตื่นหนีออกมาด้านข้างนั้น ก็ทำให้บรรดาทหารของขุนไกร ระส่ำระสาย
เนื่องจากจะฆ่ามันก็กลัวพระอาญา แต่ถ้าไม่ฆ่ามันก็จะโดนมันฆ่า สุดท้ายก็เลยแตกฮือ เป็นฝึ้งแตกรัง
ปล่อยให้ฝูงควายป่าวิ่งหนีออกไปจากวงล้อม สร้างความพิโรธ แก่สมเด็จพระพันวษาเป็นยิ่งนัก จึงตะโกนด้วยความโกรธว่า
“ไอ้ขุนไกร มึงทำงานกันยังไงหา ฝูงความป่ามันแตกหนีไปหมดแล้ว ถ้ากูไม่ได้ล่ามัน มึงต้องโดนกูลงโทษแน่ รีบๆ ไปต้อนมันกลับมาเดี๋ยวนี้”
ขุนไกรได้ฟังรับสั่งดังนั้น ก็ตกใจตัวสั่น รีบชักม้าเข้าไปต้อนความป่าเหล่านั้นกลับมา แต่บรรดาควายป่าเหล่านั้นไม่ยอมกลับมา
แถมยังพยายามจะขวิดขุนไกรด้วย แต่ไม่เข้า ด้วยขุนไกรมีอาคมขลัง ขุนไกรจึงเอาหอกแทง แต่ด้วยความซวยมาถึง
ทำให้แทงไปทีไรโดนจุดตายทุกตัว ควายป่าล้มตายไปหลายตัว ที่เหลือก็แตกฮือหนีเข้าป่าไป สร้างความโกรธให้แก่สมเด็จพระพันวษาเป็นอย่างยิ่ง
ขุนไกรเมื่อไม่สามารถปฏิบัติงานได้สำเร็จ จึงขี่ม้าอย่างเหงาหงอย กลับมายังหน้าพระที่นั่ง แล้วคลานเข้ามากราบทูลว่า
“ขอเดชะ พระอาญามิพ้นเกล้า ความป่าเหล่านั้นมันไม่ยอมจะเข้ามาในคอกพระเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าจึงต้องฆ่ามันพระเจ้าข้า”
“เออ กูเห็นแล้ว มึงฆ่าควายป่าของกูตายเกลี้ยง ไม่เหลือให้กูฆ่าเลย มึงเป็นบ้าไปแล้วใช่มั้ย หา ไอ้ขุนไกร เอา เอา...
ถ้ามึงต้องการ กูก็จะสงเคราะห์มึง เฮ้ย ทหาร เอาตัวไอ้ขุนไกรไปจำคุก”พระพันวษาพูดด้วยความโกรธ
ขุนไกรตัวสั่นด้วยกลัวความผิด ใจหนึ่งก็รู้สึกเป็นห่วงลูกเมียอย่างเหลือแสน บรรดาทหารก็ฉุดกระชากลากถูให้ขุนไกรมาตีตรวน
ขุนไกรก็นั่งลงน้อมรับโทษอย่างไม่ส่งเสียงอันใด ขณะนั้นเองสมเด็จพระพันวษาก็บอกกับขุนไกรว่า
“มึงมีอะไรจะขอกูเป็นครั้งสุดท้ายมั้ยวะ ไอ้ขุนไกร”
ขุนไกรเงยหน้าขึ้นแล้วตอบว่า
“ข้าขอสั่งเสียกับทหารคนสนิทสักหน่อยเถิด”
พระพันวษาก็พยักหน้า ให้ทหารคนสนิทของขุนไกรเข้าไปรับฟังคำสั่งเสียของขุนไกร เมื่อทหารคนสนิทเดินมาถึง
ขุนไกรก็กระซิบเบาๆ แล้วทหารคนสนิทก็เดินออกมา แล้วกระโดดขึ้นควบมาจากไปทันที
“ ข้าสั่งเสียเรียบร้อยแล้ว” ขุนไกรตอบแล้วก้มหน้านิ่ง
นางทองประศรีสะดุ้งตื่นจากความฝัน มันช่างเป็นความฝันที่เหมือนจริงเสียนี่กระไร
นางลุกขึ้นยืนแล้วเดินลงเรือนมา พร้อมกับเรียกหาบุตรชาย พลายแก้ว
ขณะนั้นเอง นางก็ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าดังขึ้นมา นางจึงหันไปดู เห็นพันทวนทหารคนสนิทของขุนไกรควบม้าเข้ามาที่บ้าน แล้วลงจากม้า
พร้อมกับบอกกับนางว่า
“เรียนนายหญิง ข้านำข่าวจากพี่ขุนไกรมา พี่ขุนไกรทำความผิดต้องโทษ ต้องถูกจองจำ
แต่พี่ขุนไกรได้สั่งข้าให้พานายหญิง กับนายน้อย เดินทางหนีไปอยู่ที่อื่น เพื่อหนีโทษ ไม่ต้องโดนนำตัวไปเป็นทาสขอรับ”
นางทองประศรีได้ฟังดังนั้นแล้ว ก็ล้มลงสลบเป็นลมในทันที ร้อนถึงพันทวนทหารคนสนิท ต้องรีบอุ้มนางขึ้นบนเรือนแล้วทำการปฐมพยาบาลให้นางฟื้นขึ้นมา
ขณะที่พันทวนกำลังปฐมพยาบาลให้นางทองประศรีฟื้นขึ้นนั้น ถ้าแถบของนางก็หลุดออก เผยให้เห็นนมทั้งสองเต้า
นมของนางถึงแม้จะคล้อยมาบ้างเนื่องมาจากการใช้งานหนัก แต่ยังทรงเสน่ห์ ทำให้พันทวนทหารคนสนิทหยุดชะงัก
จ้องมองจนตาแทบจะถลนออกมา สองมือสั่นเทา ยกขึ้นมาจับที่เต้าเต่งของนางทองประศรี แล้วค่อยๆ บีบแบบกล้าๆกลัวๆ
นมของนางแม้จะไม่สู้มือเหมือนกับนมของสาวรุ่นกำดัด แต่ยังดีดสะท้อนมือดีอยู่ นายทวนทหารคนสนิทใช้นิ้วมือ คีบดึงเบาๆที่หัวนม
ทำให้มันเขม็งตึงชี้ชูชันขึ้นมา พันทวนทนไม่ไหวก้มตัวลงดูด เม้มหัวนมเข้ามาในปากขบด้วยไรฟันเบาๆ
ทำให้นางทองประศรีส่งเสียงครางออกมาแล้วเอามือกดหัวของนายทวนให้แนบติดกับนม ทำให้พันทวนได้ใจ
เอามือดึงผ้านุ่งของนางทองประศรีออกมา แล้วใช้มือแปะเนินหีที่ปกคลุมด้วยหมอยหนาทึบ
พร้อมกับใช้นิ้วกลางเกี่ยวดึงเอาเม็ดแตดออกมาสกิดเบาๆ
จนมันแข็งเด่สู้มือ แถมรูหีก็เริ่มมีน้ำใสๆ ไหลเยิ้ม พันทวนก้มหน้าลงใช้ลิ้นเสียแคมหีเเผล็บๆๆ
สลับกับการดูดเม้มที่ปลายเม็ดแตดทำเอามันขยายใหญ่จนมีขนาดเท่านิ้วโป้ง
"นี่มันโคตรเเตดนี่หว่า"
นางทองประศรี ครางอี๋"...อี๊ย์ย์ย์ย์
ทวน จ๋า เมียทนไม่ไหวแล้ว เอาควยเสียบเข้ามาเถอะ”
"ได้สิจ๊ะเมียจ๋า"
พันทวนรู้ว่านางทองประศรีเงี่ยนได้ที่เเล้ว เลยถอดกางเกงออกปล่อยให้ควยขนาด 8 นิ้ว ออกมาส่ายหรา
ลำควยที่ดำมะเมื่อมแถมเส้นเอ็นปูดโปนนั้นนั้นเท่าไหร่
แต่หนังควยที่เป็น ตะปุ่มตะป่ำไปทั้งดุ้นนั้น ทำเอานางทองประศรีอยากโดนเย็ดให้น้ำเเตกเสียเดี๋ยวนั้น
ตอนนี้เจ้าดุ้นมหาสนุกกำลังผงกอยู่ต่อหน้าจะรอช้าอยูาใย
นางยื่นมือมาจับควยของนายทวนเลียที่หัวเเผล็บๆๆก่อนจะยัดเข้าปาก แต่เข้าได้เพียงแค่ดรึ่งท่อนก็ติดคอ
"เข้าไม่หมดรึ..มา..ข้าช่วยเอง"
พันทวนจับหัวของนางทองประศรี ให้รูดควยเข้าๆ ออกๆ อยู่สักพัก ก็ดึงหัวของนางออก ก่อนจะจับขานางถ่าง
แทรกตัวเข้าไปตรงกลาง จับหัวบานสีม่วงคล้ำจ่อกับรูหี แล้วกดเข้าไปทีละนิด
หัวควยบานใหญ่บุกทะลวงเข้าไปเรื่อยๆจนสะดุด...กึก!!" เฮ้ยย..อะไรกันนี่..ควยยังอยู่นอกรูอีกโข"
พอนึกขึ้นได้ พันทวน ก็ยิ้ม"อ้ออ..ที่เเท้ปากมดลูกนี่เอง..."
ทำให้นางทองประศรีร้องออกมาด้วยความจุก ปนความเจ็บ และความเสียว
“โอ้ย ทวนจ๋า ของทวนยาวจนมุดรูในเลยนะ” ทองประศรีออดอ้อนชายชู้
“ขอรับนายหญิง แล้วนายหญิงชอบไม๊ครับ ข้าเเทงรูในเเบบนี้”
"ถึงใจมากเลยจ้า..ควยพี่ขุนเข้าไปแค่หัว เเต่ควยทวนเข้าไปครึ่งลำเเบบนี้"
"เดี๋ยวข้าจะเย็ดให้ถึงใจนายหญิงมากกว่านี้ ดีไม๊ขอรับ"
พันทวน ตอบด้วยเสียงที่บอกถึงความเงี่ยนเป็นกำลัง เนื่องจากรูในของนางทองประศรีรัดท่อนควย แน่นตื้อ จนแทบอั้นน้ำไว้ไม่ไหว
พันทวน ตัดใจแช่อยู่พักหนึ่งปล่อยให้ควยได้ชินกับรูในสักพัก แล้วค่อยๆ ดึงควยออกช้าๆ
ท่อนควยหลุดออกจากรูในทีละนิดอย่างไม่มีปัญหาแต่พอถึงเงี่ยงหยักก็ติดกึก ด้วยว่าหัวควย พันทวนนั้น
นอกจากจะบานใหญ่แผ่เป็นดอกเห็ดเเล้วหยักยังลึกเสียอีก...เอาไงดีว๊ะกู...พันทวนคิดหนัก เเข็งใจดึงควยออกจนเงี่ยงเกือบหลุดอยู่เเล้ว
ฝ่ายนางทองประศรี เจอเงี่ยงขนาดใหญ่ถ่างรูในแบบนี้ก็เสียวจนลืมตัวพอมัยจะหลุดก็เสียดายจนลืมตัวแอ่นตูดตามทำเอาหัวควยผลุบเข้ารูเหมือนเดิม
พันทวน นั้นมีเลือดทหารเต็มตัว ไอ้ที่จะยอมเเพ้ง่ายๆนั้นเป็นไม่มี เงี่ยงบักถูกรัดเเน่นเเบบนี้เห็นจะยอมไม่ได้
ติดได้ดังนั้น พันทวน ตัดสินใจชักควยออกมาสุดเเรง ทำเอาควยหลุด..เพว๊าะ..
"อื้อหือ...."
ควยทั้งพวงหลุดออกมาส่ายโงนเงนอยู่นอกรู ถึงจะมีน้ำเล็ดออกมาบ้างเเต่ก็ไม่ประมาท
พันทวน กัดฟันคุมควยตัวเองไม่ให้น้ำแตกออกมามากกว่านี้ พอดีนึกได้ว่าที่บ้านยังมี พลายเเก้ว อีกคนแต่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหน ถ้ากลับมาละก้อยุ่งเเน่
คิดได้ดังนั้น พันทวน ก็ขึ้นค่อมนางทองประศรีทันที
ก่อนจะกัดฟันแทงควยสวนกลับเข้าไปเกิดดัง..ฟืดๆๆๆๆ ...จนควยเข้ามิด
เสียงฟืดๆหายไปเมื่อควยเข้ามิดกลายเป็นเสียง...ป้าบๆๆๆๆ...เเจ๊ะๆๆๆๆ..เข้ามาแทนที่
ควยดุ้นใหญ่วิ่งเข้าวิ่งออก ท่อนลำเป็นมันเเผล็บ การชักออกชักเข้าแต่ละทีทำเอาแคมหี ยู่เข้ายู่ออก
แตดขนาดนิ้วโป้งชี้เด่ ขี่อยู่บนลำควย เป็นภาพที่ชวนเงี่ยนเสียนี่กระไร
พันทวนกระเด้าได้สักพัก จนน้ำใกล้แตกก็เปลี่ยนเป็นท่าหมา จับนางคลานสี่ขา ท่านี้ทำให้แคมหีย้อยมาด้านหลัง
"อื้อหือ..หีย้อยบานเลย"
พันทวนจ่อทวนปลายทู่คู่กายตรงปากรู แล้วใช้เอวอัดเข้าไปในรู..เเจ๊ะๆๆๆๆ.. น้ำเงี่ยนกระฉอกเลอะที่นอนที่นอน
นางทองประศรีครางอี๋
ยามที่พันทวนกระแทกควยเข้าออกพวงไข่กระทบตูดนางดังแปะ แปะ
ไม่ช้านางทองประศรีก็น้ำแตก แต่พันทวนยังไม่เเตก จับนางทองประศรียืนขึ้น แล้วช้อนขาของนางขึ้นข้างหนึ่ง
อีกมือหนึ่งจับควยจ่อเข้าไปที่ปากรู ก่อนจะเสียบควยเข้าไปจนมิดลำ
"อี๋ย์ย์ย์..."
นางทองประศรีน้ำเเตกไปแล้ว พอเจอกับลีลาเย็ดอันดุเด็ดของพันทวน ก็ทำท่าว่าน้ำจะเเตกอีกหน
นางจับบ่าของนายทวนไว้มั่น"ทวน...ผัวจ๋าา"
ปากก็พูดตูดก็เด้งรับเด้าของพันทวนอย่างถึงพริกถึงขิง
จนในที่สุด นายทวนก็ทนไม่ไหว ชักควยออกจนเกือบหลุดทำเอานางต้องเเอ่นหีตาม"ผัวจ๋า...ระวังหลุด"
พันทวนได้ทีเสียบสวนกลับเข้าไปพรวดดียวทำเอาควยมุดเข้ามดลูกเกินครึ่งท่อน
นางทองประศรีรู้สึกอุ่นวาบที่มดลูก น้ำ พันทวน เเตกใส่จนมดลูกตึง
พันทวน ก้มลงดูเห็นไข่ตัวเองมุดเข้ารูหีทั้งสองลูก"อื้อหือ..กูละเชื่อเลย..."
หลังจากเย็ดกันเสร็จ พันทวนก็เร่งให้นางทองประศรี รีบเก็บข้าวของแล้วย้ายหนีไปโดยทันที แล้วนายทวนก็ลงเรือนไป
ทิ้งให้นางทองประศรีเรียกหาพลายแก้ว แต่พลายแก้วก็เหลือเกินตอนนี้ไม่รู้ไปไหน ทิ้งให้นางเก็บข้าวของอยู่คนเดียว
พันทวน เดินลงบรรได้มาก็เห็น พลายเเก้ว นั่งอยู่ใต้ถุนบ้านอย่างมีพิรุธ แถมเป้าตุงโด่
"อ้าว พลายเเก้ว มานั่งอยู่นี่ตั้งเเต่เมื่อไหร่"
"พึ่งมาเดี๋ยวนี้เอง"
พลายเเก้ว ตอบอย่างมีพิรุธ ทำเอา พันทวน แน่ใจว่า พลายเเก้ว ต้องเเอบดูหนังสดเป็นเเน่
เรื่องนี้อันตรายมาก ถ้าไปเข้าหู ขุนไกร ที่อยู่ในคุกต้องมีเรื่องเเน่ อย่ากระนั้นเลยต้องหาทาง
ผูกมิตรกับ พลายเเก้ว ไว้คงจะดีไม่น้อย
"พลายเเก้ว อยากหัดขี่ม้าไม๊"
พลายเเก้ว ได้ยินดังนั้นก็หูผึ่ง เนื่องด้วยตัวเองได้คะยั้นคะยอให้ ขุนไกร หัดให้หลายหนเเล้ว
แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา อ้างว่ารอให้โตกว่านี้อีกสักหน่อย แต่นี่ก็โตจนควยถอกเเล้วก็ยังไม่หัดให้สักที
"อยากขอรับ น้าจะหัดให้ข้ารึ"
"ใช่ แต่ต้องมีค่าจ้างให้น้าด้วยนะ"
พอได้ยินดังนั้น พลายเเก้วก็หน้าเสีย"...แต่...แต่..ข้า.."
"ฮะๆๆ..ดูทำหน้าเข้า น้าไม่ได้หมายถึงอัฐสักหน่อย..."
"ถ้าอย่างนั้น น้าหมายถึงอะไรล่ะขอรับ"
"ไปๆ...ไปคุยกันบนหลังม้า"
พันทวน ขี่ม้าเดินเลาะไปตามชายทุ่งโดยมี พลายแก้ว นั่งซ้อนอยู่ด้านหน้า
"พ่อพลาย ...เรื่องพ่อของพ่อพลาย น้าเสียใจด้วยนะ"
"ไม่เป็นไรขอรับ"
"แม่ของพ่อพลาย ถึงกับเป็นลมเลยนะ น้าปลุกยังไงก็ไม่ฟื้น น้าก็เลยต้องเย็ดให้ฟื้นน่ะ พ่อพลาย เข้าน้านะ"
"เข้าใจขอรับ"
"พ่อพลายรับปากน้าได้หรือไม่ว่าจะไม่เเพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครรู้"
"ได้ขอรับ"
"มันต้องหยั่งงั้นซี่..แหม..พ่อพลาย น่ารักจริงๆถ้าเป็นผู้หญิงนี่น้ารักตายเลย"
พันทวน ไม่พูดเปล่าแต่ก้มลงพอมแก้ว พ่อพลาย ฟอด ทำเอา พ่อพลาย ถึงกับหน้าเเดง
"ตะกี้ตอนที่น้าเย็ดปลุกเเม่พ่อพลาย น้ำยังไม่เเตกเลย พ่อพลาย ช่วยน้าหน่อยนะ"
"ช่วยยังไงหรือขอรับ"
พันทวน ดึงกางเกงและของพลายเเก้วลงแล้วยกตัว พลายเเก้ว นั่งทับไปบนท่อนควย
"น้าจะสอน พ่อ พลายหัดควบคุมม้า จนกว่าน้ำจะเเตกดีไม๊"
"ดีขอรับ"
พ่อพลายได้ครูดีสอนการควบคุมม้า มีทั้งโยกทั้งคลึงทั้งขย่ม กว่าจะคล่องทำเอาครูฝึกน้ำเเตก
พลายเเก้วเดินขาถ่างขึ้นเรือนมาเจอนางทองประศรีเล่าให้ฟังถึงเรื่องที่พ่อขุนไกรต้องติดคุก
แล้วให้ทหารคนสนิทมาเตือนให้นางแม่ลูกหนีอาญาแผ่นดิน พลายแก้วได้ฟังดังนั้นก็ไม่รู้สึกแปลกใจ ด้วยว่า พันทวน ได้เล่าให้ฟังหมดแล้ว
ได้แต่จูงมือแม่พาลงจากเรือน แล้วถามแม่ว่าเราจะไปที่ไหน นางทองประศรีระงับความเศร้าโศกแล้วก็คิดว่า
นางมีญาติผู้พี่อยู่คนหนึ่ง อยู่ที่เขาชนไก่ จังหวัดกาญจนบุรี เห็นทีนางจะต้องไปขอพึ่งพาให้เขาช่วยอุปการะครอบครัวนาง
แล้วนางก็จูงพลายแก้วออกเดินทางไปสู่จังหวัดกาญจนบุรีทันที
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น